เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด อนาคตเริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้น ในขณะที่ทีมเข้าใกล้โซนตกชั่นเข้าไปทุกที่ เมื่อเกมส์ล่าสุด “จิ้งจอกสยาม” บุกไปพ่าย สวอนซี ซิตี้ ในถิ่น “หงษ์ขาว” ในสกอร์ 2-0 ทำให้อันดับในพรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ฯ ตกลงมาอยู่อันดับที่ 17 มีแต้มหนีโซนตกชั้นอยู่ 1 คะแนน
ซึ่งล่าสุด “เคลาดิโอ รานิเอรี่” ยังเชื่อมั่นว่าทีมของเขาจะอยู่รอดบนพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ แม้ล่าสุดบุกพ่าย สวอนซี 2-0 ขยับเข้าใกล้โซนตกชั้นเต็มที
เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ แสดงความเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ทีมของเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาโกยแต้มเป็บกอบเป็นกำจนรอดพ้นจากการตกชั้นได้อย่างแน่นอน
การแข่งขันนัดล่าสุดของ เลสเตอร์ซิตี้
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 25 ของฤดูกาล 2016-17 แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นการพบกันระหว่าง “หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ ก่อนลงสนามรั้งอันดับ 17 ของตาราง มีอยู่ 21 คะแนน เปิดสนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า อยู่อันดับ 16 ของตาราง มีอยู่ 21 คะแนน โดยการพบกันครั้งแรกในซีซั่นนี้ เลสเตอร์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะมา 2-1
ครึ่งแรก
น.10 เลสเตอร์ ป่วนแนวรับเจ้าถิ่นได้ดีในช่วงต้นเกม ได้ลุ้นจบสกอร์ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลุยเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วดีดบอลเข้าใน กองหลังเจ้าถิ่นสกัดมาหน้าเขตโทษ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ เก็บตก แล้วยิงสวน แต่ไปติดบล็อก
น.17 เลสเตอร์ ยังเป็นฝ่ายหาโอกาสลุ้นหวาดเสียวได้อีกครั้ง จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เดมาไร เกรย์ เปิดโค้งเข้าเขตโทษมาให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ โฉบขึ้นมาโหม่งที่เสาแรก แต่บอลหลุดกรอบ
น.23 เลสเตอร์ สวนกลับเร็วได้น่ากลัว เดมาไร เกรย์ พาบอลลุยขึ้นเกมมาคนเดียว ก่อนป้ายออกด้านขวาให้ ริยาด มาห์เรซ แตะเข้าเขตโทษ โยกตัดเข้ามาซัดด้วยซ้ายข้างถนัด แต่ไปติดบล็อก
น.34 สวอนซี บุกขึ้นมาทำได้ใกล้เคียงจะเป็นประตูแรก มาร์ติน โอลส์สัน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน โหม่งเสยต่อไปเสาสองให้ เวย์น เราท์เล็ดจ์ วอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆ แต่ ชไมเคิ่ล ยังไวพุ่งปัดทิ้งไปได้
น.36 สวอนซี ที่เริ่มจับจังหวะเกมได้ดีตามลำดับ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน วางฟรีคิกระยะไกลเข้าเขตโทษ โรเบิร์ต ฮูธ โหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลลอยมาทางขวา เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ โหม่งชงกลับเข้าในมาให้ อัลฟี่ มอว์สัน วิ่งสอดเข้ามาวอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
น.45+2 สวอนซี ต่อบอลได้อย่างสวยงามนำมาซึ่งประตูนำ 2-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก เฟร์นานโด ยอเรนเต้ เคาะบอลให้ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ตวัดจังหวะเดียวทะลุช่องมาให้ มาร์ติน โอลส์สัน แตะบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลผ่านมือ ชไมเคิ่ล ไม่เหลือ
หมดครึ่งแรก สวอนซี นำ เลสเตอร์ 2-0
ครึ่งหลัง
น.54 สวอนซี ยังคงเป็นฝ่ายหาจังหวะจบสกอร์งามๆ ได้เหนือกว่า เลรอย เฟอร์ พาบอลลุยขึ้นเกมมาทางขวา ก่อนไหลเข้าในมาให้ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน แต่งหนึ่งจังหวะแล้วปั่นด้วยขวา ชไมเคิ่ล ลอยตัวเซฟเอาไว้ได้
น.63 เลสเตอร์ พลาดโอกาสได้ประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย ริยาด มาห์เรซ ไหลบอลทะลุช่องให้ อิสลาม สลิมานี่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงด้วยซ้ายมุมแคบ แต่ ฟาเบียนสกี้ ออกมาบล็อกปิดมุมยิงได้ทัน
น.73 เลสเตอร์ พยายามเร่งเครื่องอย่างหนัก เพื่อเอาประตูคืน มีลุ้นหวาดเสียว เดมาไร เกรย์ จ่ายบอลย้อนมาให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ โยกหลอกตัวประกบหาเหลี่ยมซัดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่บอลโด่งข้ามคานไปไกล
น.78 เลสเตอร์ ต่อบอลมาป้วนเปี้ยนอยู่ฝั่งเจ้าถิ่น มีโอกาสลุ้น วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ พาบอลลากลุยขึ้นหน้าแล้วจ่ายให้ อิสลาม สลิมานี่ จิ้มต่อจังหวะเดียวให้ เจมี่ วาร์ดี้ แตะบอลซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ยิงปลิ้นออกหลังอย่างน่าผิดหวัง
น.81 สวอนซี นานๆ ได้ตอบโต้ขึ้นมา หาโอกาสจบสกอร์ได้ มาร์ติน โอลส์สัน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายยัดเข้ามาให้ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เกี่ยวบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้าย แต่ยิงใต้ลูกเกินไป บอลโด่งข้ามคาน
จบเกม 90 นาที สวอนซี ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 24 คะแนน ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 15 พร้อมถีบ “จิ้งจอกสยาม” แชมป์เก่า ลงมาอยู่อันดับ 17 มีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่คะแนนเดียว
รายชื่อผู้เล่น สวอนซี ซิตี้ (4-3-3)
ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ – ไคล์ นอห์ตัน, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, อัลฟี่ มอว์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน – ทอม แคร์โรลล์, เลรอย เฟอร์, แจ็ค คอร์ก – นาธาน ดายเออร์ (เวย์น เราท์เล็ดจ์ น.7), (ลูเชียโน่ นาซิงก์ น.89), เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (จอร์แดน อายิว น.72), กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
สำรองไม่ได้ใช้
คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท – ยอดี้ อามัต, อังเกล รังเกล, สตีเฟ่น คิงส์ลี่ย์
รายชื่อผู้เล่น เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2)
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดนนี่ ซิมพ์สัน (ดาเนียล อมาร์เตย์ น.70), เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ (เบน ชิลเวลล์ น.46) – ริยาด มาห์เรซ, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์, มาร์ค อัลไบรท์ตัน (อิสลาม สลิมานี่ น.46) – เดมาไร เกรย์, เจมี่ วาร์ดี้
สำรองไม่ได้ใช้
รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ – แอนดี้ คิง, อาห์เหม็ด มูซ่า, ชินจิ โอกาซากิ
