“อยากถามแฟนบอลไทยว่าอยากเห็นสิ่งที่ดีกว่า หรืออยู่แค่นี้” ประโยคเด็ดจากปากประมุขลูกหนังไทยที่ทำเอาแฟนบอลเสียวซ่านทั้งประเทศ….
ว่าด้วยเรื่อง “ดราม่าร้อนฟุตบอลไทย” ที่มาแรงแซงโค้งทุกประเด็นในขณะนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอนาคตของ “ซิโก้” กับ “ทีมชาติไทย” หลังจากที่วานนี้ได้ยินคำสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้วเหมือนจะได้กลิ่นอายแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเร็ววันนี้
แม้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะเพิ่งพาทีมชาติไทยประกาศศักดาความเป็นเจ้าอาเซียนตัวจริง หลังคว้าแชมป์ ซูซูกิคัพ สมัยที่ 5 มาครองได้หมาดๆ แต่ดูเหมือนเส้นทางของ “กุนซือขวัญใจมหาชน” กับทัพ “ช้างศึก” อาจจะสิ้นสุดลงในเดือน ก.พ. ตามที่ในสัญญาฉบับปัจจุบันระบุเอาไว้เท่านั้น
จากคำสัมภาษณ์ของ “บิ๊กอ๊อด” เมื่อวานนี้ แม้จะบอกว่ายังไม่ได้คิดและยังไม่ได้คุยกับซิโก้ แต่ฟังๆดูแล้วไอ้ประโยคเหล่านี้
“อะไรก็แล้วแต่ถ้านำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าผมบอกแล้วไงครับ”
“เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวข้ามอาเซียน”
“ถ้าเราอยากอยู่แค่นี้ก็โอเคแค่นี้ ถ้าอยากจะก้าวข้ามก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่”
“อยากถามแฟนบอลไทยว่าอยากเห็นสิ่งที่ดีกว่า หรืออยู่แค่นี้”
บวกเข้ากับสิ่งที่ท่านนายกฯย้ำอยู่เสมอว่าเราต้องการก้าวข้ามอาเซียน!!! มันชวนให้คิดว่าในตอนนี้ทิศทางลมมันไม่ใช่ 50/50 แล้วสินะ แต่มันกำลังจะเป็น “ลมเปลี่ยนทิศ” เสียมากกว่า (เอ๊ะ! หรือผมคิดมากไปเอง)
อันที่จริง การที่ “ซิโก้” พาทีมคว้าที่ 4 เอเชี่ยนเกมส์, แชมป์ซีเกมส์ และควบแชมป์ซูซูกิคัพ 2 สมัยซ้อน ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ไม่เลวและไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใครในยุคที่ผ่านๆ มา แต่มันอาจจะยังดีไม่พอสำหรับสมาคมฯ ชุดนี้ที่ “ตั้งธงเอาไว้แล้ว” อย่างชัดเจน
ใช่ครับ นี่ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรซ์แต่อย่างใด เพราะมันมีแนวโน้มจะออกหน้านี้มาตั้งแต่การที่ “บิ๊กอ๊อด” ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ “ซิโก้” แค่ 1 ปี โดยไม่เซ็นให้คุมทีมคัดบอลโลกให้จบทัวร์นาเมนท์ไปเลย นั่นหมายความว่า ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชียนี้ต่างหากที่เป็น “บททดสอบที่แท้จริง”
และในเมื่อผ่านไป 5 นัด ผลออกมาคือ แพ้ 4 เสมอ 1 มันก็เหมือนจะมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว…
อยากไรก็ตาม สมาคมฯ ทราบดีอยู่แล้วว่า “ซิโก้” ได้ชื่อว่าเป็น “กุนซือขวัญใจมหาชน” จากเครดิตการเข้ามาพลิกโฉมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดนี้ไปใน “ทิศทางที่ดีขึ้น” จากเดิมมาก ดังนั้นการจะเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันคงไม่ง่ายแค่ไม่ต่อสัญญาแล้วหาคนใหม่โปรไฟล์ดีเข้ามานั่งทำงานแทนแน่ๆ
แต่สิ่งที่ “บิ๊กอ๊อด” และทีมงานควรชัดเจนคือเหตุผลที่มีน้ำหนักพอและสามารถอธิบายให้กับแฟนบอลได้ว่า “คนใหม่คนนั้น” เขามี “ความเหมาะสม” อย่างไรถึงได้สิทธิ์เข้ามาเป็นผู้นำทีมชาติไทย “ก้าวข้ามอาเซียน” ตามเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของท่าน….
ส่วนคำถามยอดฮิตที่ว่า หากเปลี่ยนแล้วไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงจะทำไง? อันนี้คงสุดปัญญาที่ใครๆ จะออกมาตอบได้จริงๆ เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใดในโลกนี้ที่จะการันตีได้ว่ามันต้องดีขึ้นหรือถูกใจเสมอไป ทุกการเปลี่ยนแปลงมันย่อมมีความ “เสี่ยง” ปะปนมาด้วยไม่มากก็น้อยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แหล่งที่มา : http://taloomball.com/เปลี่ยนโค้ชทีมชาติไทย
