มาเน่ พาหงษ์ บุกคว้าชัย เอฟเวอร์ตัน ช่วงทดเวลา

ซาดิโอ มาเน่ พาลิเวอร์พูลบุกเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 0-1 จากลูกยิงชนเสาของ สเตอร์ริจ ตามยิงซ้ำโดย มาเน่ แบบหวุดหวิดในนาทีที่ 94 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 ทำให้ลิเวอร์พูลขยับขึ้นมาเป็นลองจ่าฟูง จากการแข่งขันครบทั้ง 17 นัด ในพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนตามจ่าฟูงอยู่ 6 แต้ม

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี เกมที่ 227 ด้วยการไปเยือนเอฟเวอร์ตัน โดยเจ้าบ้านมีโอกาสก่อนในนาที 6 จากลูกเปิดของลูกากู หลังจากเอฟเวอร์ตันตัดบอลจากเฟอร์มิโน่ได้ แต่บอลผ่านหน้าวาเลนเซียออกไป ผ่านไป 10 นาที ในเกม บอลยังเป็นการสู้กันตรงกลางสนาม และลิเวอร์พูลยังไม่สามารถต่อบอลไปหน้าประตูเจ้าบ้านได้

เจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกในนาที 12 หลังจากเฟอร์มิโน่เข้าปะทะ แต่วาเลนเซียยิงไม่ทะลุกำแพง

เอฟเวอร์ตันเล่นเกมสวนกลับเร็วในนาที 18 แต่คลาวานสามารถเคลียร์บอลได้ก่อนที่บาร์คลีย์จะเข้าถึง ผ่านไป 20 นาที ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถตั้งเกมรุกได้อย่างถนัดเท่าไหร่

คลาวานต้องออกแรงสกัดอีกครั้ง หลังลูกากูได้บอลเปิดจากประตู ก่อนขวางเข้ามาแต่ถูกคลาวานสกัดไว้ได้อย่างหวุดหวิดในนาที 22 และบาร์คลีย์ได้ตั้งป้อมยิงในนาที 23

ลิเวอร์พูลได้โอกาสจากไวจ์นัลดุมที่ตั้งป้อมยิงในนาที 26 หลังได้บอลผ่านจากไคลน์ แต่บอลเหินข้ามคาน และในนาที 28 โอริกีถูกเบนส์ทำฟาวล์ มิลเนอร์รับหน้าที่เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบ แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์

ไวจ์นัลดุมได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อได้บอลเก็บตกหน้าประตู แต่จิ้มไม่ตรงกรอบ ในนาที 32 และในนาที 33 ลัลลานาตวัดให้โอริกีพาบอลขึ้น แต่ยังไม่ผ่านโมริ

ลิเวอร์พูลได้โอกาสจะๆ ในนาที 37 เมื่อทำเกมขึ้นมาได้อย่างสวยงาม หลังมาเน่กระโดดหลอก บอลมาถึงไวจ์นัลดุม ผ่านต่อให้ไคลน์เปิดขวางเข้ามาให้โอริกีเข้าชาร์จ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

เอฟเวอร์ตันได้เตะมุมเป็นครั้งแรกในเกม ในนาที 43 และโมริได้ขึ้นโขก แต่บอลไม่เข้ากรอบ

ลิเวอร์พูลได้ครองบอลอีกครั้งหลังจากเฟอร์มิโน่ฉกบอลมาได้ ก่อนจะผ่านให้โอริกีพาบอลขึ้นหน้า แต่ถูกสกัดล้มลง ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกนาที 46 มิลเนอร์เปิดมาเสาสอง สเตเคเลนเบิร์กต้องปัดทิ้งก่อนที่บอลจะถึงเฮนเดอร์สัน และกรรมการเป่าจบครึ่งแรก หลังทดเวลาบาดเจ็บ 1 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลลงเล่นครึ่งหลังโดยที่ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น มาเน่ผ่านบอลให้มิลเนอร์ล็อกหลบ ในนาที 48 แต่แรงไป เลนนอนสกัดออก ลิเวอร์พูลได้เตะมุมเป็นครั้งแรกในเกม แต่ไม่สามารถหาจังหวะเพื่อทำประตูได้ และในนาที 49 เฟอร์มิโน่ได้โอกาสในแดนหน้าหลังได้บอลวางมาจากมิลเนอร์ แต่ไม่สามารถกระดกบอลผ่านมือสเตเคเลนเบิร์กที่ออกมาปิดมุมได้เร็ว มาเน่จะกลับตัวยิงก็ไม่ถนัด พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เอฟเวอร์ตันได้ขึ้นบุกบ้างในนาที 54 ลูกากูได้โหม่งไปที่เสาแรก เข้ากรอบ แต่บอลออกหลัง

ลอฟเรนเป็นนักเตะคนแรกในเกมที่ได้ใบเหลือง หลังฟาวล์ลูกากูในนาที 56 และในนาที 57 เฟอร์มิโน่ไหลให้มาเน่ แต่เบนส์เข้ามาสกัดกับสเตเคเลนเบิร์ก ล้มลงไปเจ็บ บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไป เกมหยุดชั่วคราวเพราะสเตเคเลนเบิร์กเจ็บจากการเข้าปะทะกับเบนส์

บาร์คลีย์ได้ใบเหลืองจากการเข้าสกัดเฮนเดอร์สัน ในนาที 67 ล้มลงไปเจ็บ ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก

เอฟเวอร์ตันมาได้ฟรีคิกนาที 74 จากจังหวะที่ลอฟเรนขึ้นโหนโหม่ง บาร์คลีย์ได้โหม่งแต่มินโญเลต์ยังรับไว้ได้ ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะสวนกลับ ลัลลานาให้มาเน่ ก่อนที่จะพยายามเปิดเข้ากลาง แต่โอริกีเข้ามาชาร์จไม่ทัน ถูกสกัดไว้ได้ก่อน และในนาที 76 เฟอร์มิโน่ได้จักรยานอากาศ แต่บอลโด่งออกหลัง

โจเอลส์โชว์ซูเปอร์เซฟในนาที 78 ของเฟอร์มิโน่ที่ยิงไปที่โคนเสา ได้อย่างหวุดหวิด และในนาที 82 คล็อปป์ส่งสเตอร์ริดจ์ลงมาแทนโอริกี และชานลงมาแทนลัลลานา

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 86 แต่ยังไม่สามารถฉกฉวยโอกาสจากเซตพีซได้ และโหมทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์ที่จะแจ้ง กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 8 นาที

ลูกากูได้โอกาสพาบอลขึ้นไป แต่มีผู้เล่นลิเวอร์พูลเข้ามาประกบ มินโญเลต์จึงออกมารับบอลได้ในนาที 94 และลิเวอร์พูลขึ้นนำในนาที 94 หลังจากสเตอร์ริดจ์ได้ยิง บอลไปชนเสา ก่อนมาเน่จะเข้ามาซ้ำ ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม

อีกเพียง 4 นาทีต่อมา เฟอร์มิโน่ได้โอกาสยิง แต่ถูกสกัดออกหลังไปอยางหวุดหวิด จากนั้น คล็อปป์ส่งลูคัสมาแทนมาเน่ ก่อนที่กรรมการจะเป่าจบเกมให้ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มไปได้สำเร็จ

แหล่งที่มา : http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/report201216