แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-1 พร้อมกับยึดตำแหน่งอันดับ 3 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก คืนจาก “หงษ์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งบุกไปเฉือนชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิดตย์ที่ผ่านมา ทำให้ลิเวอร์พูลอาจจะต้องลุ้นการแข่งขันนัดต่อไปของปืนใหญ่อาร์เซนอล ที่มีโปรแกรมแข่งขันน้อยกว่า 1 นัด ว่าจะสามารถเก็บคะแนนเพื่อแซงขึ้นมาอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ได้หรือไม่
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 นัดตกค้าง แข่งขันวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560 เป็นการพบกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนลงสนามอยู่อันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 72 คะแนน เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 8 ของตาราง มีอยู่ 45 คะแนน โดยการพบกันครั้งแรกในซีซั่นนี้ แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ 4-0
ครึ่งแรก
น.14 แมนฯ ซิตี้ ยังทำเกมรุกได้ไม่ถนัดเท่าที่ควร ก่อนจะมาได้โอกาสลุ้นครั้งแรก จากลูกฟรีคิกระยะเกือบๆ 30 หลากลางประตู อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ปั่นด้วยซ้ายทะลุกำแพง เบน ฟอสเตอร์ พุ่งปัดทิ้ง
น.27 แมนฯ ซิตี้ เริ่มทำเกมได้ไหลลื่นมากขึ้น จนกระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 กุน อเกวโร่ ตอกส้นต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลดึงตัวประกบมาถึง 3 คนลุยเข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วเปิดยัดเข้าในมาให้ กาเบรียล เชซุส วิ่งสอดมาแปจ่อๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย
น.29 แมนฯ ซิตี้ หลังได้ประตูปลดล็อกลูกแรกก่อนหน้านี้ ให้หลังมาเพียงแค่ 2 นาที มาบวกประตูนำไปเป็น 2-0 กุน อเกวโร่ พยายามจ่ายทะลุออกด้านขวาให้ กาเบรียล เชซุส โดน มาร์ค วิลสัน สกัดออกมานอกเขต เควิน เดอ บรอยน์ ยิงสวนทันทีแบบไม่ต้องจับ บอลหนีมือ เบน ฟอสเตอร์ เข้าไป
น.39 แมนฯ ซิตี้ สร้างโอกาสลุ้นได้แต่ละครั้ง เนื้อๆ เน้นๆ ทั้งนั้น ดาบิด ซิลบา หยอดโด่งเข้าเขตโทษ แนวรับทีมเยือนสกัดออกมาเข้าทาง กุน อเกวโร่ วอลเลย์ด้วยขวาสวน แต่บอลไปตรงตัว ฟอสเตอร์
น.40 แมนฯ ซิตี้ เดินเกมหาโอกาสลุ้นในช่วงท้ายครึ่งแรก กาเบรียล เชซุส ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนหยอดโด่งออกมาอีกฝั่งให้ เลรอย ซาเน่ แต่งบอลซัดด้วยซ้ายตรงเส้น 18 หลา บอลพุ่งโด่งข้ามคาน
หมดครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ เวสต์บรอมวิช 2-0
ครึ่งหลัง
น.57 แมนฯ ซิตี้ มาด้วยความมุ่นมั่นในครึ่งเวลาหลัง ก่อนจะมาบวกประตูหนีห่างไปเป็น 3-0 จากการประสานงานอย่างลงตัว ยาย่า ตูเร่ ดีดบอลขึ้นหน้าให้ กุน อเกวโร่ ทำชิ่งหนึ่งสองย้อนมาให้ ยาย่า แตะบอลหนีตัวประกบเข้าเขตโทษแล้วแปสวนตัว ฟอสเตอร์ เข้าไปนิ่มๆ
น.68 แมนฯ ซิตี้ ค่อยๆ เดินเกมบุกเข้าหา มีโอกาสลุ้น แฟร์นานดินโญ่ เคาะบอลคืนมาให้ กาเบรียล เชซุส แหวกฝ่าแนวรับทีมเยือนถึง 3 คน ก่อนหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ฟอสเตอร์ ปัดทิ้งออกไปได้
น.72 แมนฯ ซิตี้ ยังเป็นฝ่ายหาโอกาสลุ้นได้เหนือกว่า มีลุ้นจบสกอร์ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ กุน อเกวโร่ พลิกหนีตัวประกบ แล้วหาเหลี่ยมยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลแฉลบหลุดกรอบ
น.78 แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสลุ้นหวาดเสียว จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ เปิดโค้งเข้ามากลางประตู แฟร์นานดินโญ่ สอดมาก้มตัวโหม่งคนเดียวโล่งๆ แต่บอลไปแฉลบบล็อก แล้วโดนตามเคลียร์ทิ้ง
น.84 แมนฯ ซิตี้ พลาดโอกาสบวกประตูเพิ่ม 2 ครั้งติด แฟร์นานดินโญ่ จ่ายบอลเร็วออกด้านขวาให้ กาเบรียล เชซุส พาบอลหลุดเข้าไปซัดเหน่งๆ ในเขตโทษ เบน ฟอสเตอร์ ทุบทิ้งออกมา เชซุส เก็บบอลยิงซ้ำดาบสอง แต่ ฟอสเตอร์ ยังปัดทิ้งไปได้อีกครั้ง
น.87 เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มา 1-3 ในช่วงท้ายเกม จากโอกาสลุ้นครั้งแรกตลอดทั้งเกม นาเซอร์ ชาดลี่ จิ้มบอลออกด้านขวาให้ อัลลัน นียอม เปิดเรียดยัดเข้าเขตโทษให้ ฮัล ร็อบสัน-คานู สอดมาแปที่เสาแรก เปลี่ยนทางหนีมือ กาบาเยโร่
จบเกม 90 นาที แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์บรอมวิช ไปด้วยสกอร์ 3-1 เก็บ 3 แต้มมีเพิ่มเป็น 75 คะแนน ขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ในขณะที่เหลือเกมการแข่งขันอีก 1 นัด
รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2)
วิลลี่ กาบาเยโร่ – แฟร์นานดินโญ่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี (จอห์น สโตนส์ น.77), นิโคลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ – ดาบิด ซิลบา (ปาโบล ซาบาเลต้า น.62), ยาย่า ตูเร่ (แฟร์นานโด น.81), เควิน เดอ บรอยน์, เลรอย ซาเน่ – กาเบรียล เชซุส, เซร์คิโอ อเกวโร่
สำรองไม่ได้ใช้
แองกุส กันน์ – กาแอล กลิชี่, เฆซุส นาบาส, ราฮีม สเตอร์ลิง
รายชื่อผู้เล่น เวสต์บรอมวิช (4-4-1-1)
เบน ฟอสเตอร์ – อัลลัน นียอม, เคร็ก ดอว์สัน, จอนนี่ อีแวนส์, มาร์ค วิลสัน (เจมส์ แม็คคลีน น.52) – เจค ลิเวอร์มอร์ (เจมส์ มอร์ริสัน น.65), เคลาดิโอ ยาค็อบ, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, คริส บรันท์ – นาเซอร์ ชาดลี่ – ซาโลมอน รอนดอน (ฮัล ร็อบสัน-คานู น.71)
สำรองไม่ได้ใช้
โบอาซ มายฮิลล์ – เคน วิลสัน, แซม ฟิลด์, โจนาธาน เลโก้
