ลิเวอร์พูลทำให้แฟนๆหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อมาโดนยิงสองประตูในช่วงท้ายเกม อย่างไรก็ตามผลที่แพ้ 2-4 ก็ยังเพียงพอที่ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยประเด็นที่น่าสนใจจากเกมนี้มีอะไรบ้าง เชิญชมกันได้เลย
1. กำแพงกรุงโรมถูกทำลาย
แม้สถิติเกมรับของโรม่าในรายการนี้บ่งบอกว่าพวกเขาคือทีมที่เล่นในรังตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง ตลอด 5 เกมที่ผ่านมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบ 8 ทีม สุดท้าย พวกเขาไม่เสียประตูในบ้านแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งก่อนเกมก็มีคำถามที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า”โรม่าจะหยุดเกมรุกลิเวอร์พูลได้อย่างไร” สุดท้ายเมื่อเกมผ่านไปเพียง 9 นาที กำแพงที่แข็งแกร่งก็ถูกพังลงจากซาดิโอ มาเน่ ก่อนที่จะมาเสียประตูที่สองให้กับจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ทำให้ช่วงครึ่งแรกพวกเขาเสียไปสองประตู อย่างไรก็ตามในครึ่งหลังแม้ทัพหมาป่าจะไม่เสียประตูแต่ก็สายเกินไปที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
2. หมาป่าเจอปัญหารับมือความเร็ว
เป็นที่รู้ว่าแนวรุกของลิเวอร์พูลคือเบอร์ต้นๆของยุโรปในเวลานี้และเล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งทั้งหมดนั่นมาจากการเคลื่อนที่และความเร็วของ 3 ประสานของหงส์แดง
เกมนี้โรม่า พะวงกับความเร็วโม ซาลาห์ มากเกินไปจนลืมไปว่ายังมีอีกหนึ่งคนที่มีความเร็วจัดจ้านไม่แพ้กันคือซาดิโอ มาเน่
3. มาเน่ ระเบิดฟอร์ม
ในช่วงครึ่งแรกคือช่วงที่มาเน่ ทำผลงานได้อย่างเร้าใจและใช้ความเร็วเล่นงานแนวรับเจ้าถิ่นออกเป็นชิ้นๆ ทุกครั้งที่เขาได้บอลสร้างความอันตรายแก่ฟลอเรนซี่เป็นอย่างมาก โดยหนึ่งประตูในเกมนี้ทำให้เขายิงไปแล้ว 9 ประตูในศึกชปล.
4. การเคลื่อนที่อันชาญฉลาดของฟีร์มีโน่
การเคลื่อนที่ของแข้งบราซิล คือกุญแจสำคัญในแนวรุกของลิเวอร์พูล ความฉลาดในการวิ่ง ความขยันในการหาพื้นที่ จนสามารถดึงกองหลังของโรม่าออกมาจนเสียตำแหน่ง การเล่นโดยไม่มีบอลของเขา
คือจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนักเตะรายนี้อย่างไรก็ดี ยามใดที่เขาเล่นกับบอลก็เป็นอันตรายต่อแนวรับฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน
5. ครึ่งหลังที่ไม่น่าจดจำแต่เป็นบทเรียนที่ต้องจำ
ดูเหมือนว่าลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ จะเล่นแบบสบายเกินไปในครึ่งหลัง จนปลุกโรม่าให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง ซึ่งจากฟอร์มในช่วง 45 นาทีสุดท้ายของเกม จะเป็นประสบการณ์ชั้นดีในการเล่นกับเรอัล มาดริด
ในนัดชิงชนะเลิศว่าจะทำอย่างไรเพื่อรับมือแชมป์เก่าสองสมัยติดต่อกันโดยการถูกลงโทษในช่วงท้ายเกม เป็นสิ่งที่คล็อปป์ต้องกลับไปทำการบ้าน เพื่อนำแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 มาฝากแฟนๆ
