ลิเวอร์พูล อันดับขยับขึ้นเป็นรองจ่าฟูง หลังบุกไปเยือน มิดเดิลสโบรห์ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้ โดยลิเวอร์พูลเอาชนะอย่างขาดลอย 3-0 จากการทำประตูของ ลัลลานา และโอริกี ถือเป็นการทำประตูอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ โอริกิ ได้มีโอกาสลงเล่นแทน คูตินโญ่
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายมาเยือนมิดเดิลสโบรห์ที่ริเวอร์ไซด์ และภายใน 5 นาที ลิเวอร์พูลได้โอกาสเตะมุม มาเน่ได้โฉบเข้ามาโหม่ง แต่บอลไม่เข้ากรอบ และอีกสามนาทีถัดมา ลัลลานาได้ยิงแต่ถูกกองหลังเจ้าบ้านสกัดไว้ได้
ลิเวอร์พูลพยายามต่อบอลเพื่อหาช่อง และในนาที 16 เฮนเดอร์สันแทงบอลให้โอริกีทะลุขึ้นหน้า แต่กรรมการเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ส่วนฟาบิโอของโบโร่ได้ยิงตรงกรอบเป็นครั้งแรกในนาที 18 จากจังหวะเก็บตกที่มาเน่ลื่น แต่ยังยิงไปตรงตัวมินโญเลต์
ทีมเยือนตัดบอลได้ในนาที 20 ก่อนที่ไคลน์จะพาบอลขึ้นหน้าและขวางมาหน้าประตู แต่บอลผ่านผู้เล่นออกไป มิลเนอร์มาเก็บบอลได้ ล็อกหลบ และผ่านให้ไวจ์นัลดุม ก่อนจะไหลต่อให้โอริกีได้ยิงแต่ติดบล็อก ส่วนโบโร่เล่นเกมโต้กลับ แต่คลาวานอ่านเกมออกมาช่วยสกัดไว้ได้ และมินโญเลต์ได้รับลูกโขกในนาที 23
จังหวะประสานงานของผู้เล่นในแดนหน้าของลิเวอร์พูลในนาที 27 เกือบทำให้มาเน่ได้ยิง กลับถูกบล็อกไว้ได้ แต่ลิเวอร์พูลทำประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 29 จากจังหวะที่มาเน่ผ่านบอลให้ไคลน์ที่ขึ้นมาเติม ก่อนเปิดมาให้ลัลลานาที่เข้ามาโหม่งตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด
โบโร่เริ่มบุกเป็นระลอก ในนาที 31 มินโญเลต์ออกแรงเซฟด้วยมือเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม จากลูกปั่นโค้งที่เสาแรกของฟิชเชอร์ และโบโร่ได้ยิงอีกครั้งแต่ไปติดลอฟเรน ส่วนในนาที 39 ฟอร์ชอว์ได้โอกาสยิง หลังได้บอลผ่านมาจากทางกราบซ้าย แต่มินโญเลต์สามารถบล็อกได้อย่างยอดเยี่ยม
ลิเวอร์พูล ได้โอกาสใกล้เคียงมากใน นาที 43 เมื่อมาเน่ได้ยิง แต่ไปชนเสา ส่วนโอริกีเข้าซ้ำ บอลเฉี่ยวเสาออกไปอีกอย่างน่าเสียดาย และจังหวะขึ้นบุกในนาที 45 แต่มิลเนอร์เปิดออกหลังไป กรรมการทดเวลาครึ่งแรก 1 นาที
เกมในครึ่งหลัง
ลิเวอร์พูลเริ่มครึ่งหลังได้อย่างวูบวาบ เมื่อมาเน่ได้บอลยาวจากลอฟเรน ก่อนยิงไปติดกิ๊บสันในนาที 46 ก่อนได้โอกาสจิ้มอีกครั้งในนาที 47 และในนาที 49 มาเน่ได้โยนบอลไปหน้าประตูจากทางกราบซ้าย เฟอร์มิโน่ชิงสะบัดโหม่งได้ก่อน แต่ไม่เข้ากรอบ
ทีมเยือนยังมุ่งมั่นหาประตูที่สองในเกม นาที 54 ลัลลานาได้ป้ายบอลให้โอริกีที่ไม่มีใครประกบทางกราบขวา ก่อนที่บัลเดสจะอ่านเกมออกมาตัดบอลไว้ได้ และในนาที 55 มาเน่ได้วอลเลย์ บอลไปโดนท่อนแขนแชมเบอร์ส กรรมการไม่ให้เป็นจุดโทษ และอีกสามนาทีถัดมา เฟอร์มิโน่ตัดบอลได้ ก่อนไหลมาเน่ แต่ลื่นไปหนึ่งจังหวะก่อนบอลจะมาที่ไวจ์นัลดุม แต่กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้า
ในที่สุดลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 จากการประสานงานของไวจ์นัลดุม และลัลลานา ก่อนที่จะวางให้โอริกีที่ขึ้นมาเติมและยิงเข้าไปอย่างสวยงามในนาที 61
โบโร่ขึ้นบุกบ้างในนาที 64 ก่อนที่ลัลลานาจะเข้าปะทะและเสียฟรีคิก แต่จังหวะเซตพีซของเจ้าบ้านยังไม่สามารถสร้างอันตรายได้
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูอีกครั้งในนาที 69 ลัลลานา เมื่อทำประตูขึ้นนำ 3-0 หลังจากโอริกีเปิดบอลจากทางกราบขวามาให้ลัลลานายิงเข้าไปอย่างสวยงาม
คล็อปป์เปลี่ยนแปลงทีมครั้งแรกในเกมเมื่อส่งลูคัสมาแทนลัลลานา ที่ทำสองประตูในเกมวันนี้ ในนาที และส่งเอจาเรียลงมาแทนไวจ์นัลดุม ในนาที 87
แม้จะนำ 3-0 ในเกม ในนาที 88 เฟอร์มิโน่ได้ยิงฟรีคิก แต่บอลไปติดกำแพง เฮนเดอร์สันตามซ้ำที่เสาสอง ก็ยังติดบล็อก
หลังจากล้มลงไปเจ็บ คล็อปป์จึงส่งอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาแทนโอริกี นาที 92 และเป็นเกมประเดิมพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
และจากนั้นไม่มีจังหวะการทำประตูเพิ่มในเกม ทำให้ลิเวอร์พูลบุกมาเก็บสามแต้มได้สำเร็จ พร้อมเก็บคลีนชีต และขึ้นเป็นรองจ่าฝูง หลังเล่นไป 16 เกม
รายชื่อนักเตะเกมกับมิดเดิลสโบรห์
11 ตัวจริง: มินโญเลต์, ไคลน์, ลอฟเรน, คลาวาน, มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน ©, ไวจ์นัลดุม, ลัลลานา, มาเน่, เฟอร์มิโน่ และโอริกี
สำรอง: คาริอุส, โมเรโน่, ลูคัส, สจ็วร์ต, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เอจาเรีย และวู้ดเบิร์น
เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลง 2 ตำแหน่งใน 11 ตัวจริงเกมเสมอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยมินโญเลต์ และคลาวาน ได้ลงมาทำหน้าที่แทนคาริอุส และมาติป
แหล่งที่มา : http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/report151216
