ลิเวอร์พูล เปิดบ้านปะทะ เชลซี ผลเสมอ 1-1 แบ่งแต้มทีมละหนึ่งคะแนนจากสนามแอนฟิลด์ จังหวะการทำประตูในเกมส์ “ดาวิด หลุยส์” ยิงฟรีคิกชนเสียบเสาซ้ายเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย 0-1 ในครึ้งเวลาแรก ต่อมาลิเวอร์พูลตามตีเสมอได้ในครึ้งหลังจากการโหม่งของ “ไวจ์นัลดุม” โดยก่อนหน้านี้ในการเจอกันนัดแรกของซีซัน ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนเชลซีผลชนะ 1-2 แต่ในขณะเดียวกัน เชลซี ยังครองอันดับจ่าฟูงด้วยแต้มห่างกับ สเปอร์ ทีมอันดับสองของตารางอยู่ถึง 9 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลยังรั้งอยู่ที่อันดับ 4 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุด
จังหวะสำคัญในเกม
– ลุยซ์ยิงประตูให้เชลซีขึ้นนำ 1-0 ในนาที 25
– ไวจ์นัลดุมโหม่งตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1 นาที 57
เกมในครึ่งแรก
เสียงเชียร์กระหึ่มแอนฟิลด์ในวันนี้ เพื่อสร้างกำลังใจให้ทีมเจ้าบ้านในการลงเล่นนัดที่ 23 ของ พรีเมียร์ลีก โดยรับการมาเยือนของเชลซี จ่าฝูง ผ่านไป 3 นาที ลิเวอร์พูลได้เตะมุมครั้งแรก ลัลลานาได้เปิดแต่ถูกสกัดออกมา และทำบอลลื่นออกหลังไป
หลังจากสู้กันกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ ไวจ์นัลดุมได้ลองส่องไกลในนาที 12 แต่กูร์ตัวส์ยังปัดทิ้งออกมาได้
เชลซีได้เตะมุมครั้งแรกในเกม ในนาที 20 หลังมาติปจับบอลพลาดแล้วถูกวิลเลียนฉกไป แต่ลูกครอสของโมเซสจากจังหวะเตะมุม ถูกสกัดออกหลัง แต่สุดท้ายถูกจับล้ำหน้า และในนาที 22 โมเซสกระดกบอลหลบมิลเนอร์ที่เข้าพรวด ก่อนส่งให้วิลเลียน แต่เปิดไปถูกสกัดออกข้าง
แต่เชลซีได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะในนาที 24 หลังลัลลานาเข้าเบียดอาซาร์ และลุยซ์ยิงฟรีคิกเร็ว เชลซีขึ้นนำ 1-0 ในนาที 25 และเกือบได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาที 29 เมื่อมินโญเลต์พุ่งปัดบอลในจังหวะเปิดฟรีคิกเข้ามา และลุยช์เข้าชาร์จไม่ถึง ก่อนเกมจะชะงัก หลังลุยซ์ล้มลงไปเจ็บ
ลิเวอร์พูลได้เตะมุมในนาที 33 กูร์กตัวส์ออกมาตะปปบอลไว้ก่อนที่ไวจ์นัลดุม และมาติปจะเข้าถึง
วิลเลียนเลือกยิงในนาที 39 จากจังหวะต่อบอล 2 จังหวะจากหน้าประตู แต่บอลไม่เข้ากรอบ แต่ลิเวอร์พูลได้ลุ้นลูกเตะมุมในนาที 41 หลังลุยซ์สกัดลูกเปิดของไคลน์ออกหลัง แต่ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้
ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 2 นาที
เกมในครึ่งหลัง
คล็อปป์ ยังไม่เปลี่ยนแปลงทีมในครึ่งหลัง และในนาที 47 เฟอร์มิโน่ได้บอลในกรอบ ก่อนตวัดเข้ามา แต่ไม่มีใครเข้ามาเติมในกรอบ
ลิเวอร์พูล เล่นเกมโต้กลับในนาที 49 และใกล้เคียงกับการได้ประตูตีเสมอ โดยลำลียงบอลอย่างสวยงามระหว่างคูตินโญ่ที่ส่งให้ลัลลานา ก่อนจะตอกส้นกลับมา จากนั้นบอลเลยมาเข้าทางเฟอร์มิโน่ที่ตั้งใจเข้ามายิง แต่บอลโด่งออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
เชลซี ได้บุกบ้างในนาที 52 และเป็นโมเซสได้ยิงที่เสาแรก แต่บอลชนโคนเสานออกออกไป และในนาที 55 มาติปเคลียรืบอลไปเข้าทางเชลซี ก่อนที่วิลเลียนจะได้จังหวะวางบอลให้โมเซสที่ขึ้นมาเติมทางกราบขวา แต่ให้บอลย้อนหลังไป
ไวจ์นัลดุมโหม่งตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1 ในนาที 57 หลังเฮนเดอร์สันโยนบอลข้ามมาให้มิลเนอร์โหม่งตั้งไปหน้าประตู แฉลบโมเซส ก่อนที่ไวจ์นัลดุมจะโหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม
มาเน่ที่เพิ่งกลับจากแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ได้ลงสนามมาแทนคูตินโญ่ในนาที 76
ลิเวอร์พูล มาเสียจุดโทษในนาที 76 หลังมาติปฟาวล์คอสต้าในกรอบเขตโทษ แต่มินโญเลต์ล้มทางขวาป้องกันประตูไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล (4-3-3)
ซิมง มิโญเลต์ – นาธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, โจเอล มาติ๊ป, เจมส์ มิลเนอร์ – เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวนัลจ์ดูม – อดัม ลัลลาน่า (ดิว็อก โอริกี้ น.90), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ซาดิโอ มาเน่ น.75)
สำรองไม่ได้ใช้
ลอริส คาริอุส – รักนาร์ คลาวาน, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
รายชื่อผู้เล่น เชลซี (3-4-3)
ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ – วิคเตอร์ โมเซส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนมานย่า มาติช, มาร์กอส อลอนโซ่ – วิลเลี่ยน (เชส ฟาเบรกาส น.83), ดีเอโก้ คอสต้า (มิชี่ บาตชูอายี่ น.90+4), เอแด็น อาซาร์ (เปโดร โรดริเกซ น.82)
สำรองไม่ได้ใช้
อัสเมียร์ เบโกวิช – จอห์น เทอร์รี่, เคิร์ต ซูม่า, นาธาเนียล ชาโลบาห์
แหล่งที่มา : http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/report1217
