การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 นัดที่ 26 ของทั้งหมด 38 นัด ศึกระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้ vs เชลซี การแข่งขันที่ต้องการคว้าชัยเพื่อขึ้นเป็นจ่าฝูงของ “เรือใบสีฟ้า” ทำให้พวกเขาระเบิดฟอร์มโหดถล่ม “สิงห์บลู ” เชลซี ยับเยินถึง 6-0
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 11 ก.พ. 2562 หลังจบศึกคู่บิ๊กแมตซ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม ถล่ม เชลซี อย่างหมดรูป โดย 3 ประตูเป็นของ เซร์คิโอ อเกวโร อีก 2 ประตูเป็นของ ราฮีม สเตอร์ลิง และ 1 ประตูของ อิลคายกุนโดกัน หลังจากนัดนี้แมนฯ ซิตี้ได้ขึ้นกลับมาเป็นจ่าฝูงแซงลิเวอร์พูลชั่วคราว
1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ท็อปฟอร์มมาก
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนฯ ซิตี้ วางแท็กติกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ แม้ว่าจะต้องเจอกับทีมใหญ่เหมือนกัน แต่ก็ยังคงวางแท็กติกได้ดีเล่นในสไตล์ของตัวเอง เปิดเกมรุกบุกแหลกขึ้นนำ 2-3 ลูก ไม่มีการตั้งรับหรือผ่อนเกมแต่อย่างใด นักเตะทุกคนมีสมาธิ มีความละเอียดในการเล่นสูงมาก เกมรับก็แข็งแกร่ง เกมรุกก็เฉียบคม
2. นักเตะ เชลซี ไม่มีความกระหายชัยชนะ
เชลซี เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงหลังๆ นี้ว่านักเตะเล่นไล่โค้ช ซึ่งไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับนักเตะเชลซีที่พอเสียไปลูกนึง ลูกที่สอง ลูกที่สามก็ตาม พวกเขาดูเหมือนไม่กระหายที่จะทวงประตูคืน ความผิดพลาดในเกมนี้ของเชลซีมันเยอะจนบรรยายได้ไม่หมด ถึงฟอร์มการเล่นจะสู้ไม่ได้ก็ตาม ขอให้สู้สุดใจก็พอ
3. กองกลาง เชลซี สู้ไม่ได้
การเล่นของกลางรับของทั้ง 2 ทีม เห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ระหว่าง จอร์จินโญ่ เชลซี กับ แฟร์นันดินโญ แมนฯ ซิตี้ ทั้งการครองบอล จ่ายบอล ตัดเกม ดูเหมือนแฟร์นันดินโย่จะเหนือกว่าทุกอย่าง เชื่อว่าแฟนเชลซีหลายคนอยากเห็น ก็องเต กลับไปเล่นตำแหน่งเดิมสุดๆ
4. เซร์คิโอ อเกวโร ยอดดาวยิงเรือใบ
เกมนัดนี้ กุน อเกวโร เหมาคนเดียวถึง 3 ประตู ทำให้เขาทำแฮตทริกไปทั้ง 11 ลูก ในการเล่นบอลพรีเมียร์ลีก และขึ้นนำร่วมกับดาวซัลโวดาวยิงลิเวอร์พูลอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ไปเป็นที่เรียบร้อย
